การเขียน Dairy ในรายวิชานี้ ทำให้ข้าพเจ้าได้เติมเต็มสิ่งที่ควรรู้ และต้องปฏิบัติให้ได้ เพื่อพัฒนาให้ตนเองเป็น ครู ที่ดีในอนาคต เป็นการบันทึกทั้งความรู้ที่ได้ ตลอดจนความรู้สึกที่มีต่อการเรียนในแต่ละครั้ง เมื่อมาอ่านอีกกี่ครั้ง ก็จะยังจดจำได้เสมอ ขอบพระคุณท่านอาจารย์มธุรสที่ได้สั่งสอน จนทำให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาหลักสูตรและการสอนมากขึ้น และข้าพเจ้าก็ตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปพัฒนา ผู้เรียน ต่อไปค่ะ
วันนี้เป็นวันที่ต้องเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาหลักสูตรและการสอนเป็นครั้งแรก เราทุกคนเริ่มต้นด้วยเสียงหัวเราะเพราะความเป็นกันเองและการพูดคุยที่ดูสนุกสนานของอาจารย์ อาจารย์เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเองและให้ทุกคนแนะนำตัวเองบ้าง ซึ่งทำให้เราทุกคนรู้จักกันมากขึ้น จากนั้นอาจารย์ก็ได้แนะนำรายละเอียดของรายวิชานี้ ว่ามีจุดมุ่งหมายอย่างไร มีความสำคัญกับเราที่เป็นครูผู้สอนมากน้อยแค่ไหน และเราควรปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง รู้เท่าทัน และเลือกใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ถึงตอนนี้รู้สึกเลยว่าตัวเองใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้เพียงน้อยนิด คงถึงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองซักที
อาจารย์ได้ชี้แจงถึงเกณฑ์การประเมิน Rubrics ที่จะใช้ประเมินพวกเรา ซึ่งทำให้เราทุกคนได้ทราบล่วงหน้าว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร จากนั้นก็อธิบายเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอนที่เราต้องทำ ภาระชิ้นงานที่เป็นงานรายบุคคลและงานกลุ่ม ซึ่งอาจารย์จะได้เข้ามาดูกระบวนการทำงานของแต่ละคนตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งงานสำเร็จซึ่งเป็นการเรียนการสอนผ่านเว็บ พวกเราเองก็ต้องอภิปรายงานร่วมกัน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ และอาจารย์ก็สามารถเข้ามาดูการทำงานของเรา รวมถึงให้คำปรึกษาต่างๆ ได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
ในช่วงบ่าย อาจารย์ได้แนะนำการทำ blog ส่วนตัวจาก http://www.blogger.com/ ทำให้รู้สึกสนุกในการเรียนวันนี้มาก เพราะวิธีการสร้างค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อนเกินไป และเราทุกคนก็ต้องไปทำงานกลุ่มจากหัวข้อที่ได้สืบค้น อภิปรายผลเพื่อหาข้อสรุปจากลิงค์ต่างๆ ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ที่อาจารย์ได้เพิ่มไว้ให้ศึกษา นอกจากนี้อาจารย์ได้เกริ่นถึงการทำงานรายบุคคล เช่น e -Portfolio การเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานบนเว็ปของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เช่น PIRUN Website หรือ KU - LMS MAXLEARN เป็นต้น ทำให้พอจะทราบว่าต้องทำอะไรบ้าง และสำหรับสิ่งแรกหลังจากเรียนเสร็จ คงต้องกลับบ้านไปดูบล็อกของตัวเอง เพื่อน และอาจารย์ เพื่อที่จะได้ทำงานชิ้นแรกให้สำเร็จ
1/05/2011
วันนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำ web quest ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหม่และท้าทายสำหรับเรามาก อาจารย์ได้แนะนำตั้งแต่การเขียน HTML จาก Notepad เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง web quest แต่รู้สึกว่าจะต้องใช้ความละเอียดในการทำงานนี้มากพอสมควร เพราะเป็นการออกแบบ web และเราเองก็ไม่เคยทำมาก่อน ไม่อยากลุกไปไหนเพราะกลัวตามไม่ทัน เป็นการเรียนแบบปฏิบัติที่ต้องติดตามขั้นตอนการทำแบบเป็น step และที่สำคัญคือ เราซึ่งเป็นครูผู้สอนต้องใช้ web quest ที่เราสร้างขึ้นมาเองนี้ ให้ผู้เรียนได้เข้ามาเรียนรู้จากกิจกรรมต่างๆ ที่ตรงกับสาระและมาตรฐาน ตลอดจนศึกษาแหล่งข้อมูลที่เราได้ลิงก์ไว้ให้ด้วย รู้สึกได้ถึงความยาก แต่ก็จะทำเต็มที่และถ้าเราเต็มที่ การทำ web quest ในครั้งต่อไปก็น่าจะง่ายขึ้น แต่เราเองก็ต้องไปศึกษาเกี่ยวกับ web quest ที่อาจารย์มีลิงก์มาให้ จะได้เข้าใจมากขึ้นกว่านี้
วันนี้อาจารย์ได้สอนเกี่ยวกับวิธีใช้และส่งงานในระบบ Maxlearn การรับส่ง mail ทาง KU - Web Mail รวมถึงการขอพื้นที่ใน http://pirun.ku.ac.th/ ก็เข้าใจในระดับหนึ่งแต่ปัญหาสำคัญของเรามันอยู่ที่ยังไม่มีรหัสนักศึกษา เลยทำให้ค่อนข้างไม่แน่ใจว่า หากตนเองไปทำทุกอย่างเองตอนที่ได้รับรหัสนักศึกษาแล้วจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ แต่ก็คงไม่น่าจะมีอะไรมาก เพราะเพื่อนที่ได้รหัสแล้วก็พร้อมช่วยเหลือเต็มที่ และอาจารย์ก็คงเข้าใจในประเด็นดี ดังนั้นจึงทำได้แค่ดูกับเพื่อนและจดบันทึก พอช่วงบ่ายอาจารย์ก็ได้สอนเกี่ยวกับการสร้าง file สคริปต์ในงานโปรเจ็คของตนเองด้วยโปรแกรม Power Point รู้สึกว่าตัวเองต้องรีบไปเขียนสคริปต์ที่จะนำไปสร้างบทเรียน Web Quest จะได้รีบทำงานส่งอาจารย์ตามเวลาที่กำหนด หากมีอะไรยังไม่ถูกต้องอาจารย์จะได้ช่วยชี้แนะ เพื่อที่เราจะได้ทำงานนี้ให้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
29/05/2011
การเรียนในวันนี้ อาจารย์ได้ตั้งคำถามสำคัญคำถามหนึ่งว่า Web Quest ต่างจาก Web ช่วยสอนอย่างไร ซึ่งเราตอบกับตัวเองในใจได้แล้วว่า Web Quest ต่างจาก Web ช่วยสอนตรงที่ การจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าความรู้จาก Resources บนเว็บไซต์ ซึ่งครูได้จัดไว้ให้อย่างหลากหลายและอยู่ในกรอบของเนื้อหาไม่ให้ผู้เรียนหลงทาง นอกจากนี้ยังมีคำถามที่กระตุ้นให้ผู้เรียนอยากศึกษาหาความรู้ในแต่ละกิจกรรม สคริปต์บทเรียนที่ครูได้ออกแบบไว้ เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ Web Quest แตกต่างไปจาก Web ช่วยสอน คือ การออกแบบ Web Quest ที่จำเป็นต้องมี Tasks เป็นจุดเน้นเพื่อดำเนินกิจกรรมและกำหนดชิ้นงานให้น่าสนใจและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
จากการที่ได้ไปศึกษาการค้นคว้าทั้ง Resources ที่อาจารย์ได้จัดไว้ให้ และจากที่เพื่อนๆ กลุ่มที่รับผิดชอบสรุปหัวข้อนี้ไว้ให้ ทำให้เริ่มรู้จักและเข้าใจ Tasks ในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
1. Retelling Tasks เป็นการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลบนเว็บไซต์ต่างๆ ของผู้เรียน แล้วสรุป จับใจความสำคัญและนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการบอกเล่าต่อนั่นเอง
2. Compilation Tasks มีลักษณะคล้ายกับ Retelling Tasks คือ เน้นการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากหลายเว็บไซต์เพื่อประมวลสรุป เรียบเรียงใหม่ด้วยภาษาของตนเอง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการบอกเล่าใหม่
3. Mystery Tasks เป็นรูปแบบหนึ่งที่ผู้เรียนมักชื่นชอบ มีลักษณะค้นหาข้อมูลต่างๆ เพื่อคลี่คลายประเด็น เรื่องราวหรือความลับต่างๆ
4. Journalistic Tasks เป็นรูปแบบกิจกรรมที่เน้นการค้นหาข้อเท็จจริง ในเหตุการณ์ต่างๆ และมักสมมุติให้ผู้เรียนเป็นผู้สื่อข่าว นักหนังสือพิมพ์ หรือนักวิเคราะห์ข่าว
5. Design Tasks เป็นการฝึกฝนทักษะความรู้ ในการวางแผน หรือออกแบบ จนได้ผลงาน
6. Creative Product Tasks เป็นรูปแบบกิจกรรมที่ผู้เรียนต้องคิดสร้างสรรค์ คิดได้มาก หลากหลาย แตกต่างได้กว่าคนอื่น โดยครูควรรวบรวมแหล่งความรู้ด้านพัฒนาตนให้มีความคิดสร้างสรรค์ และยกตัวอย่างผลงานสร้างสรรค์ต่างๆ ไว้ให้ผู้เรียนศึกษาด้วย
7. Consensus Building Tasks เป็นการฝึกทักษะการหาเหตุผล ข้อมูล ให้เกิดการโต้แย้ง ถกเถียง อภิปราย โต้เถียงเพื่อหาข้อสรุปที่ทุกคนยอมรับ
8. Persuasion Tasks เป็นรูปแบบที่ชักชวนจูงใจคน มีการนำเสนอได้หลายรูปแบบ เช่น การเขียนจดหมาย วิดีโอ และ โปสเตอร์
9. Self - Knowledge Tasks เป็นการเรียนรู้ตนเอง มุ่งให้ผู้เรียนเรียนรู้วิธีการที่จะวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับตนเอง จนเกิดเป็นความรู้ความเข้าใจ ที่สามารถนำไปพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างกิจกรรมที่เห็นได้ชัด ซึ่งพวกเราก็กำลังทำอยู่นี้ก็คือ การจดบันทึก ทำอนุทินการเรียนในชั้นเรียนของตนเองตลอดเวลาที่ใช้ในการเรียน
10. Analytical Tasks เป็นการเรียนรู้การวิเคราะห์ความสำคัญของสิ่งต่างๆ ที่สัมพันธ์กันอยู่ภายในหัวข้อเดียวกันโดยการวิเคราะห์หาเหตุผล ค้นหาความเหมือนความต่าง ความเกี่ยวโยงกัน จนเกิดเป็นความรู้
11. Judgement Tasks เป็นรูปแบบที่เน้นการตัดสินใจ กระบวนการตัดสินใจที่ดี เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นการพิพากษาตัดสิน
10. Analytical Tasks เป็นการเรียนรู้การวิเคราะห์ความสำคัญของสิ่งต่างๆ ที่สัมพันธ์กันอยู่ภายในหัวข้อเดียวกันโดยการวิเคราะห์หาเหตุผล ค้นหาความเหมือนความต่าง ความเกี่ยวโยงกัน จนเกิดเป็นความรู้
11. Judgement Tasks เป็นรูปแบบที่เน้นการตัดสินใจ กระบวนการตัดสินใจที่ดี เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นการพิพากษาตัดสิน
12. Scientific Tasks เป็นการเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกรายงานผลแบบวิทยาศาสตร์ ในรูปแบบมาตรฐานและเกิดจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ อาจารย์ยังแนะนำว่า การวิเคราะห์ ให้นำทฤษฎีการเรียนรู้ทั้ง 6 ขั้นของ Bloom มาใช้ เป็นการฝึกความคิดพื้นฐาน สำหรับงาน Project ของพวกเราก็ต้องแก้ไขใหม่ โดยแก้หลักการและเหตุผล การเขียนสาระ Stran มาตรฐานการเรียนรู้ Standard ตัวชี้วัด Benchmark ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง จุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งบทเรียนWebQuest ต้องคิดกิจกรรมให้ได้ก่อนเเล้วจึงตั้งจุดประสงค์
นอกจากนี้ อาจารย์ยังแนะนำว่า การวิเคราะห์ ให้นำทฤษฎีการเรียนรู้ทั้ง 6 ขั้นของ Bloom มาใช้ เป็นการฝึกความคิดพื้นฐาน สำหรับงาน Project ของพวกเราก็ต้องแก้ไขใหม่ โดยแก้หลักการและเหตุผล การเขียนสาระ Stran มาตรฐานการเรียนรู้ Standard ตัวชี้วัด Benchmark ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง จุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งบทเรียนWebQuest ต้องคิดกิจกรรมให้ได้ก่อนเเล้วจึงตั้งจุดประสงค์
ในช่วงบ่าย อาจารย์ได้สอนพวกเราเกี่ยวกับ Hot Potatoes ซึ่งเป็นโปรแกรมการทำแบบฝึกหัดหรือเกมให้นักเรียนได้ทำ รู้สึกว่าหากเราทำแบบฝึกหัดหรือเกมแบบนี้ไปให้ผู้เรียนของเราใช้ พวกเขาคงสนุกกับการเรียนแน่ๆ ในโปรแกรมนี้มีหลายอย่างที่เราสามารถนำมาทำได้ อาทิ
- J Cross ปริศนาอักษรไขว้
- J Mix เรียงประโยคใหม่ สรุปความหมายด้วยตนเอง
- J Quiz1 เป็นการตอบคำถามเลือกตอบ(จัดลำดับความสำคัญ)การตอบคำถามปลายเปิด
- J cloze เป็นการเติมคำในช่องว่าง ใช้สอนด้านภาษา
- J Match เป็นการจับคู่ข้อความกับข้อความ ภาพกับภาพ หรือการลากไปวาง
สำหรับการ Save ชื่อ File ควรมีตัวเลขกำกับ เช่น cloz1-1.cfg ด้วย เพื่อไม่ให้สับสน น่าเสียดายที่พวกเรามีเวลาในการเรียนรู้วิธีทำงานในโปรแกรมนี้น้อยเกินไป รู้สึกว่าตนเองยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก แต่ก็จะพยายามไปศึกษาและฝึกการใช้โปรแกรมนี้ด้วยตัวเองอีกครั้ง
- J Mix เรียงประโยคใหม่ สรุปความหมายด้วยตนเอง
- J Quiz1 เป็นการตอบคำถามเลือกตอบ(จัดลำดับความสำคัญ)การตอบคำถามปลายเปิด
- J cloze เป็นการเติมคำในช่องว่าง ใช้สอนด้านภาษา
- J Match เป็นการจับคู่ข้อความกับข้อความ ภาพกับภาพ หรือการลากไปวาง
สำหรับการ Save ชื่อ File ควรมีตัวเลขกำกับ เช่น cloz1-1.cfg ด้วย เพื่อไม่ให้สับสน น่าเสียดายที่พวกเรามีเวลาในการเรียนรู้วิธีทำงานในโปรแกรมนี้น้อยเกินไป รู้สึกว่าตนเองยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก แต่ก็จะพยายามไปศึกษาและฝึกการใช้โปรแกรมนี้ด้วยตัวเองอีกครั้ง
05/06/2011
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนปฏิบัติในรายวิชานี้ พออาจารย์เข้ามาในห้อง อาจารย์ก็เริ่มทำความเข้าใจกับพวกเราในเรื่อง Project ของพวกเราทันที โดยอาจารย์ได้เน้นว่า การทำ Web Quest ต้องคิดกิจกรรมก่อนแล้วจึงคิดจุดประสงค์ ในจุดประสงค์ต้องมี Process ทำแผนการเรียนรู้โดยทำผลการเรียนรู้ที่คาดหวังให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด เมื่อได้ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังแล้วจึงเขียนจุดประสงค์ วันนี้พวกเราจึงต้องแก้งานและส่งงานที่ค้างอีกครั้ง
การสร้างบทเรียน Web Quest รายบุคคล อาจารย์ก็ได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขงานไปทีละคน แต่พวกเรากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ถือโอกาสไปฟังอาจารย์พร้อมกันและได้ฟังที่อาจารย์ Comment งานให้ทีละคน พบว่าเราต้องปรับปรุงแก้ไขอีกมาก เวลาล่วงเลยผ่านไปถึงตอนเที่ยง อาจารย์ก็ยังไม่ยอมหยุดพักทานข้าว ขอบพระคุณอาจารย์ที่ทุ่มเทกับพวกเราจริงๆ จนในที่สุดการฟังข้อเสนอแนะจากอาจารย์ก็เสร็จครบถ้วนทุกคน
ตอนบ่าย พวกเราก็ได้เริ่มแก้ไขแผนหน่วยรายบุคคลกันอีกครั้ง ใครไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามอาจารย์และให้เพื่อนช่วยกันวิจารณ์งานของเพื่อนบ้าง เช่น ช่วยตั้งชื่อเรื่อง ช่วยคิดกิจกรรมบ้าง
No comments:
Post a Comment